วันอังคารที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2551

แนวโน้มภัยคุกคามไอทีปี 2552

บริษัท โกลบอลเทคโนโลยี อินทิเกรเทด จำกัด ประกาศแนวโน้มภัยคุกคามที่น่าจะเกิดขึ้นในปี 2552 ซึ่งจะนำไปสู่ 8 แนวโน้มเทคโนโลยีด้านความมั่นคงปลอดภัยที่เชื่อว่าจะมาแรงในปีฉลู

"ภัยคุกคามที่น่าจะเกิดขึ้นในปี 2552 ก็คงไม่ต่างจากปี 2551 นัก แต่จะมีเทคนิคใหม่ เพิ่มความสลับซับซ้อนขึ้น ด้วยช่องทางการเข้าถึงข้อมูลที่หลากหลายยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในเรื่อง Personal Mobile Devices ที่ใช้มือถือเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต และมีการใช้ซอฟต์แวร์ต่างๆ ผ่านเว็บแอปพลิเคชันมากขึ้น" โกลบอลเทคโนโลยี อินทิเกรเทด ระบุในบทความ

โกลบอลเทคโนโลยีฯ เชื่อว่าปี 2552 จะเกิดภัยคุกคามในรูปแบบที่เรียกว่า Zombie หรือ “ผีดิบซอฟต์แวร์” จำนวนมาก ภัยที่ถูกเรียกรวมว่า Botnet นี้เชื่อว่าจะแพร่กระจายทางโทรศัพท์มือถือมากขึ้นในอนาคต จนอาจเกิดการโจมตีในหลายรูปแบบ เช่น DDoS/DoS ที่ทำให้เป้าหมายไม่สามารถปฏิบัติงานได้, การส่งข้อมูลขยะอันไม่พึงประสงค์ (Spam), การหลอกลวงผ่านสื่ออินเตอร์เน็ต (Phishing) ตลอดจนการเจาะระบบ (Hack) เพื่อเข้าถึงข้อมูลชั้นความลับ

โกลบอลเทคโนโลยีฯ จึงมองว่า เทคโนโลยีด้านความมั่นคงปลอดภัยจะมีพัฒนาการมากขึ้นในปี 2552 ดังนี้

1. เทคโนโลยี Two-Factor Authentication ปัจจุบันการระบุตัวตนในโลกอินเตอร์เน็ต ส่วนใหญ่ใช้เพียง username และ password ซึ่งเป็นจุดอ่อนที่มิจฉาชีพอาจขโมยข้อมูลและปลอมตัวเพื่อแสวงปร ะโยชน์ได้ (Identity Threat) เทคโนโลยีนี้จึงมีแนวโน้มเข้ามาอุดช่องโหว่ ด้วยการใช้ Token หรือ Smart card ID เข้ามาเสริมเพื่อเพิ่มปัจจัยในการพิสูจน์ตัวตน ซึ่งมีความจำเป็นโดยเฉพาะกับการทำธุรกรรมทางการเงินออนไลน์ และธุรกิจ E-Commerce

2. เทคโนโลยี Single Sign On (SSO) เข้าระบบต่างๆ ด้วยรายชื่อเดียว โดยเชื่อมทุกแอปพลิเคชันเข้าด้วยกัน ซึ่งมีความจำเป็นมากในยุค Social Networking ช่วยให้เราไม่ต้องจำ username / password จำนวนมาก สำหรับอีเมล์, chat, web page รวมไปถึงการใช้บริการ Wi-Fi / Bluetooth / WiMAX / 3G / 802.15.4 สำหรับผู้ให้บริการ เป็นต้น

3. เทคโนโลยี Cloud Computing เมื่อมีการเก็บข้อมูลและใช้งานแอปพลิเคชันต่างๆ มากขึ้นตามการขยายตัวของระบบงานไอที ส่งผลให้เครื่องแม่ข่ายต้องประมวลผลการทำงานขนาดใหญ่ ให้ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ในเวลาอันรวดเร็ว จึงมีแนวคิดเทคโนโลยี Clustering เพื่อแชร์ทรัพยากรการประมวลผลที่ทำงานพร้อมกันหลายเครื่องได้ เมื่อนำแอปพลิเคชันมาใช้ร่วมกับเทคนิคนี้ รวมเรียกว่า Cloud Computing ทำให้ผู้ใช้สามารถใช้งานแอปพลิเคชันได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ปราศจากข้อจำกัดทางกายภาพ เข้าสู่ยุคโลกเสมือนจริงทางคอมพิวเตอร์ (visualization) ทั้งยังช่วยลดทรัพยากรของเครื่องคอมพิวเตอร์ ถือเป็นไอทีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Green IT) อีกด้วย

4. เทคโนโลยี Information Security Compliance Law โลกไอทีเจริญเติบโตไม่หยุดนิ่ง ด้วยมาตรฐานที่หลากหลาย โดยเฉพาะในด้านระบบความปลอดภัยข้อมูลสารสนเทศ จึงมีแนวโน้มจัดมาตรฐานเป็นหมวดหมู่ ให้สอดคล้องกับความปลอดภัยข้อมูลในองค์กร โดยนำ Log ที่เกิดขึ้นจากการใช้งานมาจัดเปรียบเทียบตามมาตรฐานต่างๆ เช่น ISO27001 สำหรับความปลอดภัยในองค์กร, PCI / DSS สำหรับการทำธุรกรรมการเงิน , HIPAA สำหรับธุรกิจโรงพยาบาล หรือ พรบ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ที่มีเป้าหมายเพื่อสืบหาผู้กระทำความผิดด้านอาชญากรรมคอมพิวเตอ ร์ เป็นต้น

5. เทคโนโลยี Wi-Fi Mesh Connection การใช้งานระบบอินเตอร์เน็ตไร้สายที่แพร่หลายในปัจจุบัน ซึ่งต้องเชื่อมโยงผ่าน Access Point นั้น สามารถเชื่อมต่อแบบ Mesh (ตาข่าย) เพื่อเข้าถึงโลกออนไลน์ได้สะดวกขึ้น ผู้ให้บริการ Wi-Fi จึงมีแนวโน้มใช้แอปพลิเคชันในการเก็บบันทึกการใช้งานผู้ใช้ (Accounting Billing) และนำระบบ NIDS (Network Intrusion Detection System) มาใช้ เพื่อเฝ้าระวังการบุกรุกหลากรูปแบบ เช่น การดักข้อมูล, การ crack ค่า wireless เพื่อเข้าถึงระบบ หรือปลอมตัวเป็นบุคคลอื่นโดยมิชอบ เป็นต้น

6. เทคโนโลยีป้องกันทางเกตเวย์แบบรวมศูนย์ (Unified Threat Management) ถึงแม้เทคโนโลยีนี้จะใช้กันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน แต่ก็ยังต้องกล่าวถึงเนื่องจากธุรกิจในอนาคตมีแนวโน้มเป็น SME มากขึ้น และเทคโนโลยีนี้ถือได้ว่ามีประโยชน์กับธุรกิจขนาดเล็ก เพราะผนวกการป้องกันในรูปแบบ Firewall / Gateway, เทคโนโลยีป้องกันข้อมูลขยะ (Spam) การโจมตีของ Malware/virus/worm รวมถึงการใช้งานเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสม (Content filtering) รวมอยู่ในอุปกรณ์เดียว

7. เทคโนโลยีเฝ้าระวังเชิงลึก (Network Forensics) การกลายพันธุ์ของ Virus/worm computer ทำให้ยากแก่การตรวจจับด้วยเทคนิคเดิม รวมถึงพนักงานในองค์กรมีทักษะการใช้คอมพิวเตอร์สูงขึ้น ซึ่งอาจจะใช้ทักษะไปในทางที่ไม่เหมาะสม หรือเรียกได้ว่าเป็น “Insider hacker” การมีเทคโนโลยีเฝ้าระวังเชิงลึกจึงจำเป็นอย่างยิ่งในการตรวจจับ สิ่งผิดปกติ ที่อาจเกิดขึ้นผ่านระบบเครือข่าย เพื่อใช้ในการพิสูจน์หาหลักฐานทางอิเล็กทรอนิกส์ประกอบการดำเนิ นคดี

8. เทคโนโลยี Load Balancing Switch สำหรับ Core Network เพื่อใช้ในการป้องกันการสูญหายของข้อมูล (Data loss) โดยเฉพาะในอนาคตที่ความเร็วในการรับส่งข้อมูลบนระบบเครือข่ายจะ สูงขึ้น เทคโนโลยีนี้จะช่วยกระจายโหลดไปยังอุปกรณ์ป้องกันภัยอื่นๆ ได้ เช่น Network Firewall หรือ Network Security Monitoring และอื่นๆ โดยไม่ทำให้ข้อมูลสูญหาย

โกลบอลเทคโนโลยีฯ ย้ำด้วยว่าปัจจุบันแฮกเกอร์ไม่ได้มีเป้าหมายเจาะระบบเครือข่ายธนาคาร หรือผู้ให้บริการธุรกรรมออนไลน์เท่านั้น แต่ได้เปลี่ยนเป้าหมายเป็นผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ต ซึ่งเข้าถึงได้ง่ายกว่าแทน โดยอาศัยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของผู้ใช้งานทั่วไปเป็นเครื่องมือ โกลบอลเทคโนโลยีฯ จึงแนะนำ 8 วิธีรู้เท่าทันและไม่ตกเป็นเหยื่อภัยคุกคามสมัยใหม่ดังนี้

1.หมั่นดูแลเครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องบรรจุข้อมูล (Thumb Drive) และแผ่นบันทึกข้อมูล อย่างสม่ำเสมอ ให้ปลอดจากไวรัสหรือมัลแวร์ต่างๆ, กำหนดรหัสผ่านเข้าใช้งาน PC และ Thumb Drive และล็อคหน้าจอทุกครั้งเมื่อเลิกใช้งาน

2.ตั้งรหัสผ่านที่ยากแก่การคาดเดา อย่างน้อย 8 ตัวอักษร และมีอักขระพิเศษ คำที่ใช้เป็น password ไม่ควรตรงกับพจนานุกรม เพื่อเลี่ยงภัยคุกคามที่เรียกว่า Brute force password จากผู้ไม่ประสงค์ดี

3.อย่าไว้วางใจเมื่อเห็นสัญญาณอินเตอร์เน็ตที่ให้บริการฟรี ไม่ว่าจะเป็นระบบไร้สาย หรือมีสาย ตลอดจนโปรแกรมต่างๆ ที่ให้ดาวน์โหลดฟรี เพราะมิจฉาชีพอาจให้โดยตั้งใจใช้ดักข้อมูลส่วนตัวของเรา เช่น username/password หรือข้อมูลบัตรเครดิต และนำข้อมูลไปใช้สร้างความเสียหายได้

4.อย่าไว้วางใจโปรแกรมประเภทที่มีชื่อดึงดูดใจให้ดาวน์โหลดฟรี เช่น คลิปฉาว, โปรแกรม Crack Serial Number, โปรแกรมเร่งความเร็ว เป็นต้น เพราะบ่อยครั้งที่มีของแถม เช่น Malware พ่วงมาด้วยเสมอ ซึ่งอาจทำให้เราตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพโดยไม่รู้ตัว

5.ในแง่บุคคล ควรหมั่นเก็บสำรองข้อมูลใน Storage ส่วนตัว อย่าให้สูญหาย กรณีเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นสามารถหยิบมาใช้ได้ทันท่วงที ส่วนในมุมขององค์กรควรให้ความสำคัญกับการทำแผนสำรองข้อมูลฉุกเฉ ิน ทั้งการทำ Business Continuity Plan (BCP) และ Disaster Recovery Plan (DRP)

6.ดำเนินชีวิตโดยไม่ยึดติดกับสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ที่เข้าครอบงำชีวิตคนยุคใหม่มากขึ้น โดยการไม่ถลำลึกบนโลกเสมือน สังคมเสมือน ซึ่งเป็นหลุมพรางที่สร้างขึ้นเอง จึงต้องป้องกันโดยการยับยั้งชั่งใจ และสร้างสมดุลให้กับชีวิต

7.ใช้วิจารณญาณไตร่ตรองข้อมูลทางอินเตอร์เน็ต โดยตั้งสติและมองเหตุผลให้รอบด้าน เพื่อป้องกันตัวเองจากภัยคุกคามที่มาในรูปแบบการล่อลวงผ่านทางอ ีเมล์ / เว็บไซต์

8.มีจริยธรรมในการใช้สื่ออินเตอร์เน็ต เอาใจเขามาใส่ใจเราทุกครั้ง โดยเฉพาะการสื่อสารกันในยุคเทคโนโลยีไร้พรมแดนเช่นนี้ ซึ่งไม่เพียงเป็นผลดีในระยะยาว แต่ยังโอบอุ้มสังคมให้สงบสุข และนำไปสู่ความปลอดภัยในการใช้สื่ออินเตอร์เน็ตต่อไป


credit: http://www.arip.co.th/2006/news.php?id=408325

The 48 Best Games of 2008

1. Grand Theft Auto IV
X360, PS3 * Spring 2008


2. Metal Gear Solid 4: Guns of the Patriots

PS3 * Early 2008

3. Fallout 3

X360, PS3, PC * Late 2008


4. Killzone 2

PS3 * TBA 2008


5. Spore

PC * TBA 2008


6. Tekken 6

PS3 * TBA 2008

7. Left 4 Dead

X360, PC * March 2008


8. StarCraft II

PC, Mac * 2008, in theory

9. Dead Space

X360, PS3 * Late 2008

10. Final Fantasy XIII

PS3 * TBA...2008?

11. Halo Wars: X360 * TBA 2008
12. Fable 2: X360, PC * TBA 2008
13. Little Big Planet: PS3 * Early 2008
14. Mario Kart Wii: Wii * Early 2008
15. Indiana Jones: X360, PS3 * TBA 2008
16. Legendary: The Box: X360, PS3, PC * Early 2008
17. Alan Wake: X360, PC * TBA 2008
18. Borderlands:X360, PS3, PC * Late 2008
19. Unreal Tournament 3: X360, PS3, PC * Early 2008
20. God of War: Chains of Olympus: PSP * March 2008
21. Mercenaries 2: World in Flames: X360, PS3 * TBA 2008
22. Saints Row 2: X360, PS3 * TBA 2008
23. Secret Agent Clank: PSP * Fall 2008
24. Midnight Club: Los Angeles: X360, PS3 * Spring 2008
25. Star Wars: The Force Unleashed: X360, PS3 * Summer 2008
26. Prototype: X360, PS3, PC * Summer 2008
27. Frontlines: Fuel of War: X360, PS3, PC * Jan. 2008
28. Infamous: PS3 * TBA 2008
29. Super Smash Bros. Brawl:Wii * Feb. 2008
30. Metal Gear Online: PS3 * TBA 2008
31. Gran Turismo 5: PS3 * TBA 2008
32. Tom Clancy's EndWar: X360, PS3, PC * Feb. 2008
33. Fracture: X360, PS3 * Summer 2008
34. Ninja Gaiden 2: X360 * TBA 2008
35. Soul Calibur IV: X360, PS3 * TBA 2008
36. Dark Sector: X360, PS3 * Feb. 2008
37. Devil May Cry 4: X360, PS3 * Feb. 2008
38. Too Human: X360 * Early 2008
39. The Club: X360, PS3, PC * Feb. 2008
40. Wii Fit: Wii * Early 2008
41. Burnout Paradise: X360, PS3 * Early 2008 42. Saboteur: X360, PS3 * TBA 2008
43. Splinter Cell Conviction: X360, PC * Early 2008
44. Turok: X360, PS3, PC * Feb. 2008
45. Silent Hill 5: X360, PS3 * Late 2008
46. Far Cry 2: PC * Summer 2008
47. Project Origin: X360, PS3, PC * TBA 2008
48. Resident Evil 5: X360, PS3 * Late 2008
49. Battlefield: Bad Company: PS3, Xbox 360 * Spring 2008
50. Brutal Legend: PS3, Xbox 360 * Late 2008
51. Ghostbusters: PS3, PS2, Xbox 360, Wii, DS * Fall 2008
52. No More Heroes: Wii * Spring 2008
credit : http://www.gamepro.com/article/features/151148/the-48-best-games-of-2008/

ปล. ไม่เข้าใจว่าทำไมมี 52 แทน 48 -*-


วันเสาร์ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2551

"Scale"

ในการทำธุรกิจสิ่งสำคัญที่สุด คือ "การเติบโต" ดังนั้นการจะเติบโตได้ จำเป็นต้องมี Scale ผมมองว่าธุรกิจจำเป็นต้องมี Sizable ที่ใหญ่พอ หรือเปรียบได้กับ "ต้นไม้" เพราะหากไม่ใหญ่ หรือแข็งแรงเพียงพอ เวลาที่ต้องต้าน "ลมที่มาแรง" ก็อาจจะล้มได้ ดังนั้น การสร้าง Scale จึงมีความสำคัญมาก หากสังเกตจะเห็นได้ชัดจากธุรกิจ convenient store ซึ่งมีการขยายสาขามากถึง 4,000-5,000 แห่ง

ผมจึงเห็นว่าการบริหารงานของนักธุรกิจ จะต้องมีหลักการของคำว่า Scale หรือ Economic of Scale อยู่ตลอดเวลา

จะเห็นได้ว่า Core Business ของเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป ในธุรกิจโรงภาพยนตร์ มีการขยายสาขาตลอดเวลากว่า 10 ปีที่ผ่านมา เริ่มต้นจาก 10 โรง เป็น 50 โรง เป็น 100 โรง เมื่อทำสำเร็จก็จะปรับเป้าหมายใหม่โดยขยับให้เพิ่มมากขึ้นเป็น 200 โรง ปัจจุบันโรงภาพยนตร์ในเครือเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป ทั้ง 4 แบรนด์ คือ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์, อีจีวี, พารากอน ซีนีเพล็กซ์ และ เอสพละนาด ซีนีเพล็กซ์ รวมมี 41 สาขา มีจำนวนโรงภาพยนตร์ 322 โรง หลังจากเราทำได้บรรลุเป้าหมายแล้วก็ได้ปรับขยับเป้าหมายใหม่เพิ่มเป็น 500 โรงทั่วประเทศในอีก 2 ปีข้างหน้า ซึ่งการกำหนดเป้าหมายดังกล่าวเป็นเรื่องของ Scale

เพราะ Economic of Scale เป็นเรื่องสำคัญ ในธุรกิจที่มี Scale ทำให้เรา "ได้เปรียบ" ทั้งด้านการแข่งขัน ต้นทุน และการเจรจาต่อรอง
ครั้ง หนึ่งซึ่ง เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป มีโรงภาพยนตร์อยู่ในหลายทำเลประมาณ 10-12 จุด หรือประมาณ 100 โรง ณ วันนั้นที่คิดจะทำธุรกิจ "มีเดีย" หรือ สื่อโฆษณาในโรงภาพยนตร์ กลับไม่สามารถทำได้ ด้วย Scale ยังไม่ถึง ซึ่งหมายความว่าสื่อไม่สามารถครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ และทั่วประเทศได้ คนซื้อมีเดียจึงเห็นว่าหากซื้อโฆษณาก็จะได้กลุ่มเป้าหมายเฉพาะพื้นที่เท่า นั้น

แต่ในวันที่เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป มีจำนวนโรงภาพยนตร์ครอบคลุมพื้นที่กลุ่มเป้าหมายทั้งพื้นที่ในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ธุรกิจมีเดียของเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป ก็ได้รับความสนใจ เพราะมี Scale และเมื่อมี Scale แล้วการต่อรองก็ง่ายขึ้นด้วย ที่สำคัญการมี Scale จะทำให้ธุรกิจมี Market Share ที่เป็นผู้นำ และการพูดอะไรเสียงก็จะดังมากขึ้น

แต่การจะมี Scale ที่เหมาะสม หรือ Market Share ที่เป็นผู้นำ ก็ขึ้นอยู่กับธุรกิจนั้นๆ ว่าเหมาะสมที่สัดส่วนเท่าไร ในบางธุรกิจ Market Share 10% ถือว่าใหญ่มาก แต่ตัวเลขเดียวกันในบางธุรกิจอาจไม่มีความหมาย
ธุรกิจ ของเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ก็ได้พยายามสร้าง Scale มาตลอด และเมื่อมีโอกาสที่จะร่วมทุนกับ "อีจีวี" ก็ไม่ได้ละทิ้งโอกาสเพื่อทำให้เกิด Scale
ธุรกิจของเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป เป็นธุรกิจที่ต้องการ Scale เพื่ออำนาจในการต่อรองกับคู่ค้าต่างประเทศพอสมควร

การบริหารธุรกิจของ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป ที่ผ่านมา ได้ทำให้เห็นมาตลอดว่าหลักการเรื่อง Scale มีความสำคัญ นอกจากธุรกิจโรงภาพยนตร์แล้ว ในธุรกิจอื่นๆ ทั้ง แคลิฟอร์เนีย ว้าว ก็ต้องการ Scale ไม่ต่างกัน เพราะเมื่อมี Scale ก็จะทำการตลาดได้ด้วยต้นทุนที่ "ต่ำลง"

เมื่อเหรียญมีสองด้าน...ก็ต้องยอมรับความจริงด้วยว่า การพยายามทำให้ธุรกิจมีขนาดใหญ่ ไม่ใช่เรื่องง่าย และมีความเสี่ยงเช่นกัน จนกระทั่งเมื่อเราค้นพบ Business Model ที่ใช่ และมั่นใจว่ามีการเติบโตแน่นอน เพราะบางธุรกิจมีการเติบโตแค่ 2 ปี ก็อาจจะไม่ขยายตัวอีกแล้ว และหลายธุรกิจทำท่าจะดีแต่ก็ไม่ดีในที่สุด

การมี Scale ที่เหมาะสม จะต้องศึกษาเป็นรายธุรกิจว่าสมควรจะมีเท่าไร โดยพิจารณาจากภาพรวมอุตสาหกรรมนั้นๆ และมากำหนด Scale ของธุรกิจตัวเอง เพื่อจะทำให้เห็นภาพชัดเจน ซึ่งแต่ละอุตสาหกรรมจะมีความแตกต่างกัน และจะเห็นได้ชัดจากการวางโรดแมพธุรกิจในระยะ 5 ปี เช่น ธุรกิจฟาสต์ฟู้ด จะต้องเริ่มต้นจากการศึกษา บิซิเนส โมเดล ว่าจะมีได้กี่แห่ง อย่างร้านอาหารอิตาเลี่ยน คงไม่สามารถขยายสาขาได้หลายแห่ง ด้วยกลุ่มเป้าหมายมีจำกัด อาจจะทำเพียงสาขาเดียวพอ

แต่ฟาสต์ฟู้ดบางประเภท "ต้องการ" มี Scale จำนวน 100 สาขาอาจไม่พอ เช่น แมคโดนัลด์ จำเป็นต้องมี 200-300 สาขา เพื่อทำให้ต้นทุนต่ำลง และสามารถตอบโจทย์ลูกค้าเรื่องความสะดวกสบาย การสร้าง Scale ความยากของการขยายสาขาของธุรกิจโรงภาพยนตร์ไม่ได้อยู่ที่จำนวน 5 หรือ 10 สาขา แต่ความยากอยู่ที่จะทำอย่างไรให้มีเกิน 100 โรงขึ้นไป เพราะหลังจากเกิน 100 โรงไปแล้วจะง่ายขึ้นเพราะมี Scale


แต่ก่อนที่จะทำให้ถึง 100 โรงนั้น เข้าขั้น "ยากลำบากมาก" เพราะระหว่างนั้นจะต้องเผชิญปัญหาหลากหลาย โดยเฉพาะเรื่องบุคลากร เงินทุน ขณะที่ "แรง" ก็ยังไม่ค่อยมี เพราะยังลงทุนไม่ได้ Scale ยังไม่มีแบรนด์ที่แข็งแกร่ง การเจรจาต่อรองลำบาก ดังนั้น ในช่วงที่ธุรกิจกำลังทำ Scale คงไม่สามารถคิดเรื่องกำไรหรือขาดทุนได้

แม้การจะได้ Scale ที่เหมาะสมจะเป็นเรื่องยาก แต่ก็เป็นหลักการทางวิทยาศาสตร์ ที่เกิดจากการศึกษา บิซิเนส โมเดล ว่าเป็นอย่างไร แต่การจะมีธุรกิจที่ยั่งยืน ผมมองว่าใช้เวลา 10 ปี ยังไม่พอ วันนี้เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป มีอายุกว่า 10 ปีแล้ว ผมมองว่ายังไม่ยั่งยืนพออย่างน้อยจะต้อง 25 ปีขึ้นไป เพื่อให้ผ่านประสบการณ์หลายวงจรธุรกิจ การบริหารธุรกิจกว่า 10 ปีที่ผ่านมา แม้จะถูกมองว่ามี Scale ใหญ่ แต่ผมไม่เคยประมาทในการบริหารธุรกิจ

ผมเองก็มีหลักคิดการบริหารธุรกิจให้ยั่งยืน เพื่อทำให้องค์กรเป็น "สถาบัน" เช่นเดียวกับองค์กรธุรกิจอื่นๆ ซึ่ง Scale สามารถตอบโจทย์หลักคิดนี้ได้

credit : http://newsroom.bangkokbiznews.com/comment.php?id=2992&user=vicha

วันเสาร์ที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2551

สร้างความเข้าใจที่ดีด้วยการสื่อสาร

สร้างความเข้าใจที่ดีด้วยการสื่อสาร โดยพี่แจง: ผู้จัดการอาวุโสและวิทยากรอบรมด้านมนุษยสัมพันธ์ของ AIA

"การสื่อสารเป็นสิ่งสำคัญที่นำไปสู่ความสัมพันธ์" : การสื่อสารเป็นการแลกเปลี่ยน(การส่งออกไปและรับเข้ามา)ความคิดหรือสิ่งต่างๆ ระหว่างผู้คน

ส่วนประกอบของการสื่อสาร
  1. จุดเริ่ม : ผู้พูด
  2. จุดรับ : ผู้ฟัง
  3. ระยะทาง
การสื่อสารจะสำเร็จไปด้วยดีจำเป็นต้องมี ความตั้งใจทั้งฝั่งผู้พูดและผู้ฟัง อีกทั้งต้องมีระยะทางที่เหมาะสมอีกด้วย

ความตั้งใจ(Intention) : จดจ่อบางสิ่งบางอย่าง

Intro Workshop
  1. อยู่ตรงนั้น : นั่งหลับตาสบายๆ ควบคุมให้จิตอยู่ในห้อง อยู่ที่เก้าอี้ที่นั่ง
  2. การเผชิญหน้า : นักเรียนจะมองหน้าโค้ชอย่างสบายๆ ไม่ยิ้ม ไม่หัวเราะ ไม่หยุกหยิก ฯลฯ มีโค้ชคอยดู
  3. การเผชิญหน้าเมื่อมีการยั่วยุ : โค้ชเพิ่มการยั่วยุเข้าไป แต่นักเรียนต้องทนและสงบนิ่งให้ได้
  4. การส่งสารให้ถึงผู้รับ : พูดข้อความให้อีกฝ่ายได้ยิน ด้วยเสียงที่พอเหมาะ และน้ำเสียงที่เหมาะสม
  5. การตอบรับ : เพื่อเป็นการแสดงว่าได้รับและเข้าใจการสื่อสารของเขา โดยมีการตอบรับที่เหมาะสม ไม่ตัดบท หรือตอบไม่เหมาะสม
ท้ายนี้ ขอขอบคุณพี่แจง และวิทยากรทุกท่าน รวมถึงอ.ธงชัย อีกครั้งที่มอบความรู้อันมีค่านี้ครับ ขอขอบพระคุณมากมากครับ

วันอาทิตย์ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2551

"Business Model"

"Business Model"
By vicha

นักธุรกิจรุ่นใหม่มักถามถึง "สูตรสำเร็จ" ในการบริหารธุรกิจกับผมเสมอว่าใช้หลักการใด?


สำหรับผมการบริหารธุรกิจนั้นไม่มี ไบเบิล หรือ สูตรสำเร็จ แต่จะยึดหลักคิด 4 ตัวหลักสำคัญ คือ Model, Scale, Leverage และ Strategic ในการบริหาร เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป มาตั้งแต่เริ่มต้นการทำธุรกิจในปี 2537 ถึงปัจจุบัน หากจะอธิบายถึงหลักคิดที่ผมยึดถือมาตลอด เริ่มจากตัวหลักสำคัญตัวแรก คือ Model หรือ Business Model นั่นคือ หากจะทำธุรกิจใดก็ตามจะต้องเข้าใจถึง Business Model ของธุรกิจนั้นๆ ก่อนว่า เป็นธุรกิจประเภทใด มีใครเป็นคู่แข่ง มีความเสี่ยงในแง่มุมใดบ้าง มีโอกาสจะเติบโตหรือไม่ เพราะการทำธุรกิจใดก็ตามจะต้องมีการเติบโต


ที่สำคัญต้องถามตัวเองว่ามีความถนัด หรือชอบในธุรกิจนั้นหรือไม่ด้วย ยิ่งหากเป็นนักธุรกิจรุ่นใหม่ ก็ยิ่งต้องศึกษา Business Model ให้ดีว่า องค์ประกอบของการทำธุรกิจมีอะไรบ้าง เรามีความชำนาญหรือไม่ เพราะบางธุรกิจมีการแข่งขันสูงมาก ต้องใช้บุคลากรจำนวนมาก ใช้เงินทุนค่อนข้างสูง ตัวอย่างที่ชัดเจน คงเป็นกลุ่มธุรกิจค้าปลีกประเภท Discount Store ที่วันนี้มีอยู่เต็มพื้นที่ และยากลำบากสำหรับรายใหม่ที่จะเข้ามาในธุรกิจนี้ได้ หากต้องการทำธุรกิจนี้ จะต้องใช้เวลาแข่งขันอีกเท่าไรถึงจะมีเท่ากับรายใหญ่ที่มีอยู่เดิมในตลาด สำหรับเมเจอร์ได้เริ่มจาก บิซิเนส โมเดล ที่ถนัด และตรงกับกลุ่มลูกค้า เมื่อเลือก Business Model ได้ถูกต้อง ก็สามารถสร้างการเติบโตได้

จุดเริ่มต้นของเมเจอร์ที่เลือกทำ "เอ็นเตอร์เทนเมนท์ คอมเพล็กซ์" เมื่อปี 2537 เนื่องจากในขณะนั้นไม่มีคู่แข่งทำธุรกิจในรูปแบบนี้มาก่อน ด้วยแนวคิดว่า "จะทำโรงภาพยนตร์ให้เป็นมากกว่าโรงภาพยนตร์" จึงทำให้มีแม่เหล็กเสริมอย่าง โบว์ลิ่ง, โรงภาพยนตร์ไอแมกซ์ จอยักษ์ 3 มิติเข้ามาด้วย วันที่ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป เริ่มต้น เราไม่ได้ตั้งเป้าหมายว่าจะเป็น Leader ของธุรกิจโรงภาพยนตร์ แต่จะเป็นเอ็นเตอร์เทนเมนท์ คอมเพล็กซ์ เพราะเราต้องการเติบโตด้วย บิซิเนส โมเดลใหม่ที่เป็น เอ็นเตอร์เทนเมนท์ คอมเพล็กซ์ ในรูปแบบ stand alone ที่มีมากกว่าโรงภาพยนตร์ โดยมีทั้งร้านค้า ร้านอาหารชั้นนำหลากหลายภายในศูนย์ จึงกลายเป็น Eatertainment (Eat+Entertainment) จะเห็นได้ว่า บิซิเนส โมเดล ของเมเจอร์นั้น ได้พัฒนามาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดคือ Esplanade ที่มีแม่เหล็กใหม่เข้ามาเพิ่มอย่าง โรงละครรัชดาลัย เธียเตอร์ และ ไอซ์สเกตติ้ง ฮอลล์

การบริหารธุรกิจต่างๆ จำเป็นต้อง ส่องกระจก ดูตัวเอง และต้องรู้ว่าตัวเองทำอะไรอยู่ และเมื่อถูกถาม ก็ต้องตอบได้ว่าทำธุรกิจอะไร ไม่ใช่ตอบไม่ได้หรือไม่รู้ เพราะการทำธุรกิจใดๆ ก็ตาม จะมีข้อจำกัดเรื่องบุคลากรและเวลา ดังนั้น หากมัวแต่หลงทาง หรือ Direction ของตัวเอง การบริหารก็ยากที่จะประสบความสำเร็จ

และแม้ว่าได้ศึกษา บิซิเนส โมเดล มาอย่างดีแล้ว กำหนดไดเร็คชั่นของธุรกิจแล้ว แต่เป็นธุรกิจที่มีการแข่งขันสูง มีความเสี่ยงสูง ก็ต้องกลับมาถามตัวเองว่ามีกำลังพร้อมที่จะแข่งขันหรือไม่

ผมเองก็ไม่ได้เริ่มต้นการทำธุรกิจจาก เอ็นเตอร์เทนเมนท์ คอมเพล็กซ์ แต่เริ่มจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ก่อน โดยทำอพาร์ตเมนต์ให้ชาวต่างประเทศเช่า แต่ที่มาถึงวันนี้ได้ก็เป็นเพราะ Open Mind ศึกษาทุกโอกาสในการทำธุรกิจว่ามีอะไรบ้าง และไม่ยึดติดกับโมเดลเพียงโมเดลเดียว จุดเริ่มต้นของเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป คือ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ คอมเพล็กซ์ แต่วันนี้ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ได้ก้าวสู่ "เอ็นเตอร์เทนเมนท์ ไลฟ์สไตล์" ที่มีหลากหลายธุรกิจที่สนับสนุน Core Business เพราะเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป ไม่ได้ปิดกั้นการพัฒนาโมเดลใหม่ๆ เพราะในโลกธุรกิจปัจจุบันจำเป็นต้องสวมหมวกหลายใบ ไม่ว่าจะเป็น Entrepreneur, Investor, Public Company โดยไม่จำเป็นต้องเป็นหมวกเดียวใบเดียว

ดังนั้น บนข้อจำกัดที่ธุรกิจจะต้องเติบโตด้วยสิ่งแวดล้อมต่างๆ โดยเฉพาะต้นทุนค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นทุกปี และเราจำเป็นต้องกระตุ้นให้ธุรกิจเติบโต แต่หากอยู่ในบิซิเนสโมเดลที่ไม่มีโอกาสเติบโตอีกแล้ว หรือหากต้องใช้กำลังและเวลาเยอะแต่ได้กำไรน้อย จะต้องกลับมาถามตัวเองว่าจะทำต่อไปหรือไม่ ยิ่งในปัจจุบันมีปัจจัยที่ไม่สามารถควบคุมได้หลายประการ ยิ่งมีความเสี่ยงในการทำธุรกิจสูง ดังนั้น นักธุรกิจ นักบริหารจะต้องคิดว่าใน บิซิเนส โมเดล ที่ไม่มีการเติบโต เราควรจะทำต่อไหม
หลายๆ ครั้ง เราก็มักจะบอกตัวเองว่า "ไม่รู้จะทำอะไร" หรือไม่มีทางเลือก ซึ่งผมไม่เห็นด้วยกับวิธีคิดแบบนี้ เพราะผมมีความเชื่อว่า "ทุกที่ มีโอกาส" เสมอ อยู่ที่ว่าเราจะศึกษาหรือค้นหาโอกาสนั้นหรือไม่ ผมมองว่าข้อดีของประเทศไทยคือ มีโอกาสมหาศาล อยู่ที่เราเปิดใจค้นหาหรือไม่

ในตอนต่อไปผมจะอธิบายถึงหลักการคิดตัวสำคัญตัวที่ 2 คือ คำว่า Scale ในมุมมองของผม

credit : http://newsroom.bangkokbiznews.com/comment.php?id=2445&user=vicha

3 วิธีป้องกันภัยไวรัสจาก flash drive, flash drive

ป้องกันการติด virus จาก flash drive

1. ปิด Auto run ทันทีที่คุณเสียบ flas drive เข้ากับคอมพิวเตอร์ ก็จะติดไวรัสทันที เนื่องจากมีการออโต้รัน ตัวไวรัสให้ทำงานด้วย file autorun ที่ถูกสร้างขึ้นด้วยกัน แม้จะลบแล้วก้จะถูกสร้างไหม่ขึ้นมาอีกครับ
วิธีการ
คลิกปุ่ม Start --> Run ปรากฏไดอะล็อกบ็อก Run พิมพ์คำสั่ง gpedit.msc กดปุ่ม OK ปรากฏไดอะล็อกบ็อก Group Policy

คลิกเลือก
User Configuration --> Administrative Templates --> System --> Double Click ไฟล์
Turn Off Autoplay (ทางทีดีควรทำที่ Computer Configuration ด้วย)
- ไดอะล็อกบ็อก Turn Off Autoplay Properties
- คลิกเลือก Enabled
- คลิกเลือก All drives
- คลิก OK


2. Don't Click
ห้ามดับเบิ้ลคลิ๊ก flash drive เพื่อทำการเปิดดูข้อมุล หรือดับเบิ้ลคลิ๊กไฟล์แปลกๆโฟลเดอร์ที่อยู่ดีๆก็
ปรากฏให้เห็น เพราะจะเท่ากับเป็นการ auto run ครับเช่น Folder.exe หรือชื่อไฟล์ที่ออกไปทาง sex video clip virus จะทำงานทันที่เพราะนั้นเท่ากับเป็นการ auto run ครับหากต้องการเปิด drive ให้คลิ๊กขวา open หรือ explorer เอาน่ะคับ


3.View File
เปิดดูไฟล์แปลก ที่ถูก hidden อยู่ หากมีชื่อดังนี้ หรือเป็นไฟล์แปลกๆให้ลบทันที วิธีคือ Tools > Folder Option >Tab view >Show hidden file>ติ๊ก Hide protected operation system >ok
เช่น
- recycler
- killvbs.vbs
- RemonE
- jomeke
- ms32.dll.vbs
- หรือไฟล์แปลกๆ (ระวังเป็นไฟล์ระบบ ซอฟท์แวร์ของ flash Drive ท่านมักจะชื่อ found )

หรืออีกแบบ อันนี้เป็นวิธีค่อนข้างจะ manual นะครับ
1. ปิด autorun กด shift ค้างไว้ก็ได้
2. เปิด flash drive ด้วยโปรแกรม file manager ที่มองเห็นทุกไฟล์ ที่ใกล้ตัวที่สุดก็คือ winrar ดับเบิ้ลคลิกเข้าไป ไวรัสก็ไม่ทำงานด้วยครับ
3. เข้าไปลบไวรัสทั้งหมด โดยเฉพาะไฟล์ autorun.inf และ พวกไวรัสที่ทำหน้าตัวตาเองคล้ายๆโพสเดอร์ แต่เป็น.exe จริงๆก็ลบทุกไฟล์ที่ไม่ใช่ของเราอะนะ
4. ถอด flash drive แล้วเสียบใหม่ ใช้งานได้ปลอดภัยครับ ถ้าเสียบแล้ว เปิดดู มีไวรัสอีก แสดงว่าคอมตัวเองติดไวรัสแล้วครับ (ตัวใครตัวมัน)

credit : http://citec.us/forum/index.php?showtopic=24565&pid=61889&st=0&#entry61889

World of Warcraft ถูกระบุเป็นสาเหตุที่ทำผลการเรียนนักศึกษาตกต่ำ

จากการที่มีสาระความรู้ให้ศึกษาได้มากมายบนอินเทอร์เน็ต อาจทำให้ผู้ปกครองบางคนวางใจเต็มร้อยกับการใช้งานอินเทอร์เน็ตของลูกของตน เอง แต่จากการสำรวจให้ผลออกมาในทางตรงข้าม: การสำรวจเมื่อปลายปี ค.ศ. 2005 (พ.ศ. 2548) ระบุว่า มีผู้ปกครอง 59% ที่เห็นว่าการใช้อินเทอร์เน็ตนั้นเป็นผลดีกับลูกของตน — ลดลงจาก 67% ในปี ค.ศ. 2004 (พ.ศ. 2547) คุณอาจจะตกใจหากรู้ว่า หนึ่งในสาเหตุหลักที่นักศึกษาระดับมหาวิทยาลัยต้องออกจากการเรียนกลางคันใน สหรัฐอเมริกา คือ การติดเกมออนไลน์ — อย่างเช่น World of Warcraft — ซึ่งมีผู้เล่น 11 ล้านคนทั่วโลก

ก่อนหน้านี้ทาง GameCulture ก็รายงานว่า อาจารย์ที่ปรึกษาของ University of Minnesota Duluth ในรัฐมินนิโซตา ทางตอนเหนือของสหรัฐอเมริกาให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่นว่า มีนักศึกษาสองคนที่ติดเกม World of Warcraft ใช้เวลาเล่นเกมทั้งคืนเป็นเวลาหลายเดือน ทำให้ผลการเรียนจากได้เกรด A เป็นประจำกลายเป็นเกรด F แทน

ไม่ใช่เฉพาะเกม World of Warcraft มั้งครับ ถ้าเป็นในไทยอาจจะพูดถึง Ragnarok Online แทน มีคนเรียนไม่จบเพราะติดเกมออนไลน์มาแล้ว น่าจะเป็นกันทั่วโลก

Credit: http://www.blognone.com/node/9974


ปลุกยักษ์!?

ครั้งนี้มีวิทยากรรับเชิญพิเศษ 2 ท่าน ได้แก่โค้ชสิริลักษณ์ ตันสิริและคุณปรีดาวรรณ บูรณะรุ่งเรืองกิจ

การประสบความสำเร็จในชีวิต ต้องเชี่ยวชาญ 2 ด้าน ได้แก่

1.เชี่ยวชาญศาสตร์ของความสำเร็จ

ศาสตร์ด้านนี้สามารถลอกเลียนแบบกันได้ โดยเพิ่ม Energy ในตัวโดยการเพิ่มความกล้าแสดงออกมีหลายวิธีด้วยกัน เช่น ให้จับคู่กันแปะมือกัน และออกเสียง อย่างมีพลัง ต้องฝึกสองเรื่องคือ
1) เก่งเรื่องตัวเอง หมายถึง รู้จักตัวเอง รู้ว่าตัวเองชอบอะไร รู้จุดประสงค์ของชีวิต จุดแข็งและจุดอ่อน แล้วแก้ไขจุดอ่อนซะ
2) เก่งเรื่องคน หมายถึง สามารถโน้มน้าวคนอื่น รู้จิตวิทยา

RPM Plan
1) Result(What?) - อยากมีชีวิตแบบไหนต้องชัดเจน ให้อยู่ในใจเราทุกวัน นึกถึงมันตลอด
2) Purpose(Why?) - พลังเกิดจากสิ่งนี้ ทำไมเราอยากได้สิ่งที่ปรารถนา เพื่ออะไร ต้องอยากได้อย่างรุนแรง ต้องเอาให้ได้ ถึงจะมีพลัง
3) Massive Action Plan(How?) - ถ้าเหตุผลมากมายที่อยากได้ วิธีการต่างๆมันจะมาหาเอง

“ปลุกยักษ์” (Positive self talk ) เพื่อให้พลังตัวเอง แสดงศักยภาพที่แท้จริงของตน มี workshop ดังนี้
1) พูดกับตัวเอง เช่น พูดว่า “ฉันเป็นคนเก่ง” ให้ใส่ feeling ลงไปด้วย ถนัดคำหยาบก็ใช้ได้
2) พูดกับตัวเองโดยเรียกชื่อแทน เพื่อเรียกยักษ์ในตัวให้ตื่นขึ้น
คำพูดของคนเรา มีพลังมหาศาล มันดึงดูดโดยไม่รู้ตัว และหากไปเจอเรื่องไม่ดี ก็ต้องคิดแต่เรื่องบวกๆ


2.เชี่ยวชาญศิลปะในการสร้างความสุข (The art of fulfillment)


ความสำเร็จ (Success) เปรียบเสมือน สามเหลี่ยมที่มีสามยอด ได้แก่
1) Result- สิ่งที่อยากได้
2) Growth- การเจริญเติบโต (สำคัญที่สุด) หมายถึง พัฒนาการที่จะเป็น Result การเรียนรู้ของเรา
3) Fun- ทำงานไปและมีความสุขไป

การแยกแยะวงจรอุบาทว์ ต้องแยกแยะว่าอะไรคือสิ่งที่เกิดขึ้นกับอะไรคือสิ่งที่ปรุงแต่ง โดยมี workshop ให้ทำคือ ให้จับคู่ บอกคำพูดที่ตนรู้สึกเจ็บปวดที่สุดเมื่อได้ฟังกับคู่ของตัวเองแล้วให้ผลัดกัน พูดใส่กันและกันหลายๆรอบ

ต้องขอขอบคุณวิทยากรทั้ง 2 ท่าน และอาจารย์ธงชัยมากครับ สำหรับโอกาสในการได้ฟังบรรยายอันยอดเยี่ยมครั้งนี้




วันพุธที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2551

ภาษาภาพ


“ภาษาภาพ” เริ่มด้วยให้คิดสัญลักษณ์ประจำตัว แทนตัวเรา ซึ่งสัญลักษณ์ที่วาดนี้ควรจะเป็นภาพที่ชอบวาด สำหรับผมก็เป็นรูปดวงอาทิตย์+เกียร์ โดยดวงอาทิตย์แสดงถึงตัวเองนั่นคือ ตะวัน(ชื่อ) ส่วนเกียร์แสดงถึงวิศวฯ ครับ โดยส่วนก็ชอบเพราะดูสวยดี และมีเอกลักษณ์


Free Association (การเชื่อมโยงอย่างอิสระ)

จากนั้นก็ได้นำเอา Free Association นั้นมาลองใช้กับ “คัมภีร์มรณะ” ซึ่งเป็นเหมือนการตีความจากภาษาภาพ โดยภาพนั้นจะเป็นตัวอักษรHieroglyphic โดยจะใช้จินตนาการจากภาพว่าภาพนั้นกำลังจะช่วยบอกทางแก้ปัญหาหรือสื่อบางอย่างให้เรารู้ ซึ้งบางคนอาจทำไม่ได้ จำเป็นต้องใช้สมองซีกขวา และต้องเชื่อว่าคัมภีร์มรณะมีคำตอบ


เกมทายใจลองดู ก็ตรงดี

ให้จินตนาการว่าคุณกำลังเดินทางไปหาสมบัติ

1.) คุณกำลังเดินเข้าไปในป่าแห่งหนึ่ง สัตว์ชนิดแรกที่คุณเจอคือ>>>

2.) หลังจากนั้นคุณก็เดินไปเจอถ้ำแห่งหนึ่ง คุณจะใช้เทียนกี่เล่มในการเดินในถ้ำ

3.) ในถ้ำมีทางให้เลือกสองทางคือ ทางแรก สั้นกว่าใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงแต่เส้นทางค่อนข้างลำบาก ชัน ส่วนทางที่สอง ใช้เวลามากกว่าอาจจะถึงสามชั่วโมง แต่เป็นทางเดินเรื่อยๆ สบายกว่า เลือกทางไหน

4.) หลังจากออกมาจากถ้ำ คุณก็รู้สึกหิวน้ำมากเลยคุณเดินไปเจอตุ่มน้ำเห่งหนึ่งถามว่าในตุ่มจะมีน้ำอยู่แค่ไหน

5.) ข้อสุดท้าย เจอกับชาวบ้าน เขาบอกว่า คุณมาผิดทาง ถามว่าคุณจะเดินไปต่อหรือกลับไปเริ่มต้นใหม่

สำหรับเฉลยก็มีดังนี้

ข้อแรก สัตว์ที่คุณเจอบ่งบอกถึงลักษณะนิสัยของคนที่คุณอยากได้เป็นแฟน ส่วนใหญ่ตอบ เสือ สิงโต งู กระต่าย กวาง ม้า ... หมูป่า ... ควาย!? หมีโคอาล่า?

ข้อสอง จำนวนเทียน แสดงถึงระดับความเจ้าชู้ มีคนตอบ 12 เล่ม !!!

ข้อสาม ถ้าเลือกทางแรกแปลว่าคุณไม่ได้เลือกคบคนที่ฐานะ ถ้าเลือกทางที่สองแปลว่าคุณอยากใด้แฟนที่มีฐานะดีอยู่แล้ว

ข้อสี่ ระดับน้ำแสดงถึงปริมาณความต้องการทางเพศ มีคนตอบเต็มแบบล้นมาเรื่อยๆ ด้วยO_o!?

ข้อสุดท้าย นี้ถ้าคุณเลือกเดินต่อแปล่ว่า ถ้าแฟนเก่ามาขอคืนดีด้วย คุณจะไม่สน เลือกคบคนใหม่ไปเลย โลด แต่่ว่าถ้าเลือกกลับไปเริ่มต้นใหม่ก็แปลว่าคุณพร้อมที่จะกลับไปเริ่มต้นใหม่ กับแฟนเก่า

การบ้าน Hack Your Mind 2

1. เขียน mind map สรุปเนื้อหาวิชาที่ท่านกำลังเรียนมา 1 วิชา โดยทำในกระดาษ A4 หรือใหญ่กว่า สีขาวล้วน ไม่มีลวดลาย และใช้สีตั้งแต่ 3 สีขึ้นไป
- computer animation

2. ใช้โปรแกรม Mind Manager (www.mindjet.com) สร้าง mind map Resume ของท่าน โดยทำอย่างสวยงาม

3. ใช้โปรแกรม Mind Mapping ตัวอื่นใดก็ได้นอกเหนือจาก Mind Manager เขียนมายด์แมปเรื่องที่ตัวเองสนใจ
- game ใช้ iMindMap