กรุงเทพ ธุรกิจ ออนไลน์ : ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ได้อ้างถึงตัวเลขคาดการณ์จากบริษัทวิจัยตลาด ไอดีซี ว่ามูลค่าการใช้จ่ายด้านไอทีทั่วโลกปีหน้า จะขยายตัวเพียง 2.6% หรือปรับลดลงจากที่เคยว่าจะขยายตัวประมาณ 5.9% ขณะที่ ประเทศไทย ก็คาดว่าจะมีแนวโน้มชะลอตัวลงเช่นกัน
ก่อน หน้าที่จะเกิดเหตุการณ์การปิดท่าอากาศยานและการยุบพรรค ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่าในกรณีพื้นฐานเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวประมาณ 3.5% ส่วนในกรณีเลวร้ายที่ การส่งออกและการลงทุนภายในประเทศหดตัว จะทำให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวประมาณ 2.5% ชะลอตัวลงจากปี 2551 ที่คาดว่าจะขยายตัว 4.8% ทำให้ผู้บริโภคและภาคธุรกิจอาจชะลอการใช้จ่ายด้านไอทีตามไปด้วย
โดย เฉพาะธุรกิจที่เน้นตลาดต่างประเทศ อาจต้องเผชิญปัจจัยเสี่ยงจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก สถาบันการเงินที่อาจชะลอการลงทุนด้านไอที เพื่อพยุงสถานะทางการเงินให้มีความมั่นคงมากขึ้นท่ามกลางปัจจัย เสี่ยงที่รุม เร้าอยู่มากมาย ดังนั้น ส่วนใหญ่จะปรับลดงบประมาณด้านไอทีลง เลือกลงทุนด้านไอทีที่มีความจำเป็นก่อนเท่านั้น
อีก ทั้งหลังเหตุการณ์การปิดท่าอากาศยานและการยุบพรรค สะท้อนให้เห็นว่าสถานการณ์ทางการเมืองยังมีความไม่แน่นอนสูง โดยเฉพาะเสถียรภาพของรัฐบาล ทำให้แผนการ ลงทุนด้านไอทีของภาครัฐและโครงการเมกะโปรเจค มีความเสี่ยงที่อาจไม่เกิดขึ้นตาม แผนการที่วางไว้ แม้ตลาดไอทีอาจมีปัจจัยสนับสนุนจากการลงทุนในอุตสาหกรรม & nbsp; โทรคมนาคม ที่คาดว่าจะมีการลงทุนเพื่อเปิดให้บริการโทรศัพท์มือถือ 3จี และไวแม็กซ์
ตลาดไอทีเติบโตลดลง 50%
ศูนย์ วิจัยกสิกรไทย คาดว่าในกรณีพื้นฐานตลาดไอทีปี 2552 จะมีมูลค่าประมาณ 163,000-169,000 ล้านบาท ขยายตัว 3-5% ชะลอตัวจากปี 2551 ที่มีมูลค่าประมาณ 158,000-161,000 ล้านบาท ขยายตัว 8-10% และต่ำกว่าอัตราการขยายตัวเฉลี่ย 10 ปีย้อนหลังซึ่งอยู่ที่ประมาณ 15%
ทั้ง นี้ ตลาดคอมพิวเตอร์ฮาร์ดแวร์ มีแนวโน้มชะลอตัวลงต่อเนื่องจากปี 2551 เนื่องจากการชะลอการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคเพราะไม่มั่นใจใน ภาวะเศรษฐกิจ โดยคาดว่าในกรณีพื้นฐานตลาดปีนี้ จะมีมูลค่า 74,000-77,000 ล้านบาท ขยายตัว 2-4% ชะลอตัวลงจากปี 2551 ที่มีมูลค่า 73,000-74,000 ล้านบาท ขยายตัว 6-8%
เอกชนชะลอลงทุนซอฟต์แวร์
ทาง ด้านตลาดคอมพิวเตอร์ซอฟต์แวร์คาดว่ามีแนวโน้มชะลอตัวเช่นกันตาม ภาวะเศรษฐกิจ โดยคาดว่าภาคเอกชนซึ่งมีสัดส่วนในตลาดกว่า 65-70% จะชะลอการลงทุนด้านไอที
ไม่ว่าจะเป็นโรงงานอุตสาหกรรมที่มีสัดส่วนกว่า 28% โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์ และเครื่องใช้ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ที่มีสัญญาณการชะลอตัวอย่างชั ดเจน ขณะที่ สถาบัน การเงินที่มีสัดส่วนประมาณ 17% ก็อาจระมัดระวังค่าใช้จ่ายมากขึ้น
ส่วนซอฟต์แวร์สำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ มีโอกาสขยายตัวสูงขึ้น หากมีการเปิดให้บริการระบบ 3จี
ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่าในกรณีพื้นฐานตลาดคอมพิวเตอร์ซอฟต์แวร์ปี 2552 จะมีมูลค่า 64,000-67,000 ล้านบาท ขยายตัว 3-5% ชะลอตัวลงจากปีที่ผ่านมาซึ่งมีมูลค่า 62,000-63,000 ล้านบาท ขยายตัว 9-11%
ที่มา : http://www.bangkokbiznews.com/2009/01/02/news_324787.php
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น